Song Fang Klong Restaurant

Song Fang Klong Restaurant 
( ร้านอาหารสองฝั่งคลอง )   
"สองฝั่งคลอง" ร้านอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตกแต่งสไตล์โคโลเนียล กึ่งตะวันออกและตะวันตก เหมือนย้อนไปสมัยรัชกาลที่ 5...

ร้านอาหารสองฝั่งคลอง ตั้งอยู่ในบริเวณ โรงแรมบัดดี้ โอเรียนทอล ริเวอร์ไซด์ ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งอยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ร้านอาหารตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียล เป็นการนำเอาสถาปัตยกรรมไทยสมัยรัชกาลที่ 5 มาผสมผสานในการออกแบบ ภายในร้านตกแต่งด้วยโทนสีพาสเทล และประดับไปด้วยของสะสมโบราณหลายอย่าง เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบของเก่า ซึ่งสามารถหาดูได้ยาก ภายในร้านอาหารจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรกที่เป็น outdoor ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา และอีกส่วน คือ ในตัวร้านที่เป็นห้องปรับอากาศ โดยมีห้อง VIP สำหรับลูกค้าจองที่ชอบความเป็นส่วนตัว นอกจากนี้ยังมีโต๊ะพูลไว้ให้บริการ ทางร้านจะเน้นบรรยากาศแบบอบอุ่นเป็นกันเอง พร้อมกับรสชาติอาหารที่ยอดเยี่ยม มีหลากหลายเมนู โดยมีเอกลักษณ์ของอาหารที่มีรสชาติจัดจ้าน พร้อมกับอาหารทะเลสดๆ ในราคาสบายๆ 

ส่วนที่เป็นที่นิยมที่สุดของร้าน คือ ส่วน outdoor เนื่องจากเป็นระเบียงขนาดใหญ่ ยื่นออกไปในแม่น้ำเจ้าพระยา สามารถรับลมเย็นๆ และมองเห็นวิวแม่น้ำได้ 360 องศา และตรงระเบียงริมแม่น้ำนี่เอง ที่เป็น location ในการถ่ายทำละครดังเรื่องแรงเงาที่ผ่านมาอีกด้วย จึงทำให้บรรดาเหล่านักชิม ไม่พลาดกับการมาเที่ยวชม พร้อมกับรับประทานอาหาร ที่ร้านอาหารสองฝั่งคลองนี้

ครั้งแรกสำหรับการมารับประทานอาหารเย็น ชมพระอาทิตย์ตกดิน ริมแม่น้ำเจ้าพระยา กับกลุ่มเพื่อนสนิท นับว่าไม่ผิดหวังเลยจริงๆ ทั้งบรรยากาศสุดแสนอบอุ่น เป็นกันเอง ของพนักงานที่ให้บริการเป็นอย่างดี และรสชาติอาหารที่จัดจ้าน ถูกปากแบบไม่มีที่ติ แต่ราคาเฉลี่ยแล้วมื้อนี้ ก็จ่ายไปคนละ 500 บาท นับว่าไม่ถูก แต่ก็ไม่แพงจนเกินไป สมกับค่าบรรยากาศและรสชาติสุดอร่อย

เมนูแนะนำ : ส้มตำปูไข่ดอง, ปลากะพงผัดพริกไทยดำ, กุ้งอบพริกเกลือ, กั้งทอดกระเทียม, รวมมิตรทะเลเผา, ปลาท่องโก๋ยัดไส้ทอด, ต้มยำหมูตุ๋น

เบอร์โทรศัพท์ สองฝั่งคลองเรสเตอรองท์ : 0-2584-2222

วันและเวลาเปิดปิดทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 10.00 - 24.00 น.

อ้างอิงจากเว็ปไซต์ : edtguide

The Local Restaurant

The Local Restaurant ( ร้านอาหารเดอะโลคอล )
อร่อยล้ำกับอาหารรสจัดจ้าน สังสรรค์สนุกสนานในย่านชานเมือง...

เดอะโลคอล เป็นร้านอาหารไทย จีน นานาชาติ เน้นด้านรสชาติอาหาร บรรยากาศสบายๆ โปร่ง โล่ง นั่งชิลๆ มีน้ำล้อมรอบ ทำให้เย็นสบายตลอดปี ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงฤดูร้อนก็ตาม อีกทั้งยังหลีกหนีความวุ่นวายในเมือง มาสัมผัสกับอาหารรสชาติอร่อยจัดจ้าน มีเอกลักษณ์โดดเด่น ไม่เหมือนใคร

The Local Restaurant เป็นร้านอาหารที่มี 3 บรรยากาศ กับ 3 สไตล์ความชิล สำหรับคนที่ชอบบรรยากาศแบบ Outdoor ฟังเพลง Acoustic เพราะๆ จากดนตรีสด หรือสำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว สามารถร้องเพลงสังสรรค์กับเพื่อนในห้องคาราโอเกะ ที่มีให้เลือกหลายโซน และพิเศษสุดกับการมารับประทานอาหารในวันอาทิตย์ - พฤหัสบดี จะได้รับส่วนลดราคาห้องคาราโอเกะถึง 50% ส่วนแบบสุดท้าย จะเป็นโซนจัดเลี้ยงบนสนามหญ้า ที่ล้อมรอบด้วยน้ำ ให้บรรยากาศเหมือนอยู่บนเกาะส่วนตัว ซึ่งสามารถจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ต่างๆ ที่สำคัญร้านนี้ยังมีจอโปรเจคเตอร์ขนาดใหญ่ ล้อมรอบสี่ทิศทาง ช่วยสร้างบรรยากาศครึกครื้นได้เป็นอย่างดี

Meeting กับกลุ่มเพื่อนสนิทในครั้งนี้ เลือกบรรยากาศความเป็นส่วนตัว กับการจองห้องคาราโอเกะ ที่มีเครื่องเสียงและจอ LCD ที่ชัดมาก ในขณะที่ร้องเพลง หลงคิดไปว่าอยู๋ในห้องอัดเสียงกันเลยทีเดียว แถมยังได้รับส่วนลดค่าห้องอีก 50% ตามโปรโมชั่นอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีพนักงานที่ให้บริการอย่างใกล้ชิด มาประจำอยู่ในห้องคาราโอเกะ เพื่ออำนวยความสะดวกทุกๆ อย่าง เพื่อนทุกคนต่างชื่นชอบกับรสชาติอาหารที่กลมกล่มทุกเมนู ไม่ว่าจะเป็นอาหารทะเลสดๆ หรืออาหารไทยรสจัดจ้าน ซึ่งทุกคนต่างสัญญากันไว้ว่า จะต้องกลับมาที่ร้านอาหาร The Local นี้อีกอย่างแน่นอน

อาหารแนะนำ : กุ้งกระเบื้อง, คอหมูย่างกะทะร้อน, ห่อหมกมะพร้าวอ่อน, หมึกแดดเดียว, แกงส้มชะอมปลาสลิด, หอยนางรมทรงเครื่อง

เวลาเปิด : ทุกวัน 17.00-00.00 น.

เบอร์โทรศัพท์ : 0-2536-4730 , 08-3123-1442

อ้างอิงจากเว็ปไซต์ : thelocalbkk

Three Mangoes

Three Mangoes ( ทรีแมงโก้ )
เติมความผ่อนคลายให้ชีวิตได้สดชื่น กับร้านนั่งสบายๆ อย่าง Three Mangoes พบกันได้ที่ ใกล้แยกคลองประปาตัดถนนแจ้งวัฒนะ...

Three Mangoes เป็นร้านอาหารที่เน้นให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายกับโซนที่สามารถเลือกนั่งได้ตามสไตล์ โดยการแบ่งหน้าร้านเป็นมุมกาแฟน่ารัก รสชาติเยี่ยม ส่วนด้านหลัง เป็นมุมนั่งรับประทานอาหาร พร้อมกับเสียงเพลง ท่ามกลางบรรยากาศโปร่งๆ เหมาะกับการนั่งคุยกับกลุ่มเพื่อนเพลินๆ หรือจะใช้เป็นมุมสนุกสนานกับการท่องโลก Internet ทางร้านก็มี Wifi ไว้ให้บริการฟรี

นับได้ว่าการมา Three Mangoes ของกลุ่มเพื่อนสนิทนี้ เป็นการมา Meeting เป็นประจำในยามว่างเนื่องจากอยู่ไม่ไกลจากบ้านของเพื่อนแต่ละคน สามารถนัดเจอกันได้ง่าย เดินทางได้อย่างสะดวก รวดเร็ว อีกทั้งยังสามารถมาที่ร้านได้หลายโอกาส ไม่ว่าจะเป็นการนั่งชิล รับประทานเครื่องดื่มเบาๆ กับเค้กหลากหลายความอร่อย หรือจะเป็นการรับประทาน Dinner สุดแสนโรแมนติก เหมือนนั่งอยู่ในสวนพฤกษชาติ ท่ามกลางสระน้ำพุ พร้อมกับฟังเสียงเพลงเพราะๆ จากวงดนตรีสด ซึ่งเป็นเสน่ห์ย่ามค่ำคืนของที่นี่

Three Mangoes เป็นร้านที่มีบรรยากาศกลมกล่อม พร้อมกับการตกแต่งที่ลงตัว ไม่ซ้ำแบบใคร เนื่องจากเป็นการตกแต่งที่ใช้สไตล์เรโทรเป็นหลัก เน้นความโล่ง โปร่งสบาย เหมาะกับการนั่งทำการบ้าน ทำงาน หรือเอาไว้พบปะพูดคุยกับกลุ่มเพื่อน และที่พลาดไม่ได้ คือ เมนูกาแฟรสชาติเข้มข้น โปะด้วยวิปครีม ให้ความรู้สึกสดชื่นในยามบ่ายได้ดี เหมาะสำหรับการพักผ่อนสบายๆ ส่วนเค้กขึ้นชื่อของที่นี่ จากประสบการณ์อยากแนะนำ ชีสเค้ก ที่สามารถเลือกราดซอสทั้งราสเบอรี่และบลูเบอรี่ หรือเค้กไวท์ชอคชีสเค้ก ที่อ่อนละมุน นุ่ม ละลายในปาก รับประกันความอร่อยไม่เหมือนร้านไหนๆ แน่นอน หากนั่งเพลินจนล่วงเลยเข้าสู่ช่วงเวลาอาหารค่ำ ไม่ต้องมองหาร้านอาหารมื้อค่ำที่อื่นเลย เพราะ Three Mangoes จะเปิดโซน Open Air บริการมื้อเย็น บรรยากาศดี ราคารับได้ ไม่เกินคนละ 400 บาท จากการที่เคยไปรับประทานมาบ่อยๆ จึงไม่ควรพลาดที่จะไปลองลิ้มชิมรส

เมนูแนะนำ : กาแฟสด, เครื่องดื่มและของว่าง, ส้มตำปูม้า, สลัดกุ้งทอด, กุ้งฟูยำมะม่วง, ตำมะม่วงปูเค็ม, ยำผักหวานทูน่า, ปลากระพงนึ่งมะนาว, ข้าวผัดทรีแมงโก้

วันและเวลาเปิดปิดทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 10.30 - 24.00 น.

เบอร์โทรศัพท์ Three Mangoes แจ้งวัฒนะ : 0-2574-0909 , 0-2574-0910

อ้างอิงจากเว็ปไซต์ : thairath

Air Bar

Air Bar ( แอร์บาร์-พักพิงอิงทางบูติกโฮเทล )
Air Bar ร้านอาหารบนดาดฟ้า บรรยากาศดี เหมาะสำหรับมาสังสรรค์กับเพื่อนฝูงหรือจะเป็นคนรู้ใจ มีมุมให้เลือกหลากหลาย พร้อมอิ่มอร่อยกับเมนูอาหารที่ใครได้ลิ้มลองแล้วต้องติดใจ...

ร้านอาหารแบบเปิดโล่ง ตั้งอยู่บนชั้น 8 หรือดาดฟ้าของโรงแรมพักพิงอิงทางบูติกโฮเทล ถูกออกแบบให้รับอากาศบริสุทธิ์กับมุมมอง 360 องศา ไม่มีหลังคาและผนังมาปิดบังสายตา สามารถชมวิวบนดาดฟ้า ที่สามารถมองเห็นจังหวัดนนทบุรีและกรุงเทพฯ ได้ไกลสุดสายตา พร้อมกับเสียงเพลงจากวงดนตรีแนวคลาสสิกเบาๆ อากาศเย็น ลมพัดสบาย นับว่าเป็นการพักผ่อนหย่อนใจในบรรยากาศแสง สี และเสียงท่ามกลางท้องฟ้าในยามค่ำคืน โดยร้านจะตกแต่งด้วยโทนสีสดใส พร้อมด้วยเมนูอาหารมากมายหลายชนิด อาหารจานเด็ดทางร้านจึงลงท้ายด้วยคำว่า “พักพิง” เป็นเอกลักษณ์โดยเฉพาะตามชื่อของโรงแรม

เนื่องจากที่นี่เป็นร้านอาหารที่ตั้งอยู่บนดาดฟ้าของโรงแรม ที่ออกแบบโดยยึด Concept ขายความแปลก ไม่เหมือนใคร และมีเสน่ห์แบบดิบๆ ส่งผลให้สามารถใช้ความแปลกของตึก โฆษณาตัวเองได้เป็นอย่างดี ทำให้ดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวได้ทั้ง 2 ทาง คือ รับประทานอาหารกับบรรยากาศอันน่าตื่นเต้นบนดาดฟ้า และการพักผ่อนในส่วนของโรงแรมอันเรียบง่าย แต่ดูหรูอย่างมีระดับ นับว่าเป็น idea ของกิจการที่สามารถประกอบธุรกิจควบคู่กันไปได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว

ครั้งแรกของการนัดพบกลุ่มเพื่อนสนิทกับบรรยากาศการ Meeting ท่ามกลางท้องฟ้า ที่ทุกคนสามารถเงยหน้าขึ้นไป มองดูดาวที่สุกสว่างบนท้องฟ้าอันมืดมิด สร้างความตื่นเต้นและสนุกสนาน ในแบบที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน เนื่องจากเป็นการ dinner ที่สุดแสนโรแมนติก ปล่อยตัวไปตามสบายกับโซฟาและหมอนอิงที่นุ่มสุดๆ เปรียบเสมือนอยู่ในบ้านที่ไม่มีหลังคา อีกทั่งยังรับประทานอาหารขึ้นชื่อของโรมแรม กับเมนูพิเศษที่มีเฉพาะที่นี่เท่านั้น ส่วนราคาก็อาจจะแพงนิดหน่อย สมกับค่าบรรยากาศที่หายาก ในย่านงามวงศ์วานนี้ เฉลี่ยแล้วมื้อนี้คนละ 700 บาท แต่เป็นการสั่งอาหารเมนูพิเศษจนครบ เนื่องจากมาถึงร้านตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ตกดิน จนกระทั่งใกล้ถึงเวลาร้านปิด เพลินเพลินกับบรรยากาศ แบบไม่มีทางไม่บอกต่อได้เลยทีเดียว 

เมนูแนะนำ : ปลากะพงพักพิง, เมี่ยงพักพิง, ขาหมูเยอรมัน, ไก่ทอดเกลือ, ขาหมูทอดกรอบ

วันและเวลาเปิดปิดทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 18.00 - 02.00 น.

เบอร์โทรศัพท์ Air Bar พักพิงอิงทางบูติกโฮเทล : 0-2589-3399

อ้างอิงจากเว็ปไซต์ : oknation

Chocolate Ville

Chocolate Ville ( ช็อคโกแลต วิลล์ )
"ช็อคโกแลตวิลล์" ร้านอาหารสวยสไตล์ยุโรป ที่เน้นคอนเซ็ปต์ Dining In The Park กับพื้นที่กว้างกว่า 16 ไร่ ย่านเกษตร-นวมินทร์...

จุดเด่นของที่นี่ ต้องยกให้กับการตกแต่งสถานที่ ซึ่งทางร้านได้เนรมิตพื้นที่ ให้กลายเป็น หมู่บ้านเล็กๆ สไตล์ยุโรป ภายในหมู่บ้านประกอบไปด้วย บ้านเป็นหลังๆ หลากหลายสไตล์ ที่มีรูปแบบการก่อสร้างที่แตกต่างกัน เช่น บ้านไวน์ , ไปรษณีย์ , ร้านค้า , ปั้มน้ำมัน , บ้านเรือนกระจก , สระน้ำ , ประภาคาร ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีการเลี้ยงน้องเป็ด ที่จะพากันเดินเล่นและว่ายน้ำ สร้างความรู้สึกเหมือนหมู่บ้านขนาดใหญ่แก่ผู้มาเยือน

เชื่อว่าเมื่อทุกคนมาถึงที่ Chocolate ville จะต้องตื่นตาตื่นใจกับความสวยงามของบ้านแต่ล่ะหลัง และสำหรับคอ Social Network จะต้องไม่พลาดกับการ Check in , Share และอัพเดต Status ของตัวเองอย่างแน่นอน

จากประสบการณ์ การไปสังสรรค์ในโอกาสพิเศษช่วงเทศกาล หรือในวันหยุด ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ จะต้องทำการจองล่วงหน้า และสามารถเลือกโซนได้ว่า อยากนั่งบริเวณไหน ไม่ว่าจะเป็น ด้านหน้าบ้านไวน์ พื้นที่ริมสระน้ำ พื้นที่ใกล้โซนเรือนกระจก โดยพื้นที่ของทางร้าน จะแบ่งให้จองล่วงหน้า 30% ต่อวัน และส่วนที่เหลืออีก 70% สำหรับลูกค้า walk in ที่ต้องเดินทางมารับคิวหน้าร้านด้วยตัวเอง

อยากแนะนำให้มาที่ร้านก่อน 17.30 น. น่าจะได้คิวแน่นอน และเมื่อมาถึงแล้ว ก็ยังสามารถ เดินเล่น ชมวิว ชิลล์ถ่ายรูปไปได้เรื่อยๆ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในขณะที่รอคิว กรณีไม่มีคิวหรือคิวยาวมากจนรอไม่ไหว ก็สามารถเดินเล่นถ่ายรูปอย่างเดียว โดยไม่ทานอาหาร ทางร้านก็อนุญาต ซึ่งการนัดพบสังสรรค์กันในกลุ่มเพื่อนสนิทครั้งนี้ มีเวลาเกินกว่า 2 ชั่วโมงในการรอคิวจองโต๊ะ เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลปีใหม่ จึงทำให้สามารถถ่ายภาพกับวิวที่งดงาม เสมือนโลกแห่งจินตนาการ ที่ถูกเนรมิตรขี้นมาในย่านบริเวณถนนเกษตร-นวมินทร์ โดยมีภาพที่ถ่ายในการมาเยี่ยมชมร้านนี้ มากกว่า 200 รูป เป็นครั้งแรกเลยทีเดียว ที่สามารถเก็บภาพบรรยากาศกับความประทับใจได้มากที่สุด สิ่งที่พลาดไม่ได้ คือ รสชาติอาหารหลากหลายสไตล์ มีให้เลือกทั้งอาหารฝรั่งและอาหารไทย มาพร้อมกับความอร่อยกลมกล่อมตามแบบฉบับที่ไม่เหมือนใคร เฉลี่ยแล้วไม่เกินคนละ 400 บาท นับว่าคุ้มมากกับการมาสังสรรค์ในครั้งนี้ อีกทั้งเพลิดเพลินและสร้างความตื่นตาตื่นใจ ไปกับการดูแสง สี เสียงสุดอลังการ และหิมะเทียมที่ปล่อยออกมาจากประภาคารสูง สวยงามจนไม่อาจกระพริบตาได้เลย

เมนูแนะนำ : แซลม่อนแซ่บ, ขาหมูเยอรมันทอดกรอบ, หอยนางรมอบชีส, พิซซ่าอิตาเลี่ยน

เวลาเปิดทำการร้าน : เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 16.00 น – 24.00 น.

เบอร์โทรศัพท์ : 08-3077-3738 , 08-1921-2016 หรือ 08-1921-0661

อ้างอิงจากเว็ปไซต์ : dpu